เลือกรองเท้า On Running รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับตัวเองที่สุด เรามีคำตอบ

• Facebook
• Twitter
• Line

การเลือกซื้อรองเท้า On Running ให้เหมาะสมกับตัวเอง ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในรูปแบบการวิ่ง และความต้องการส่วนตัว On เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการผลิตรองเท้าเน้นสมรรถนะ ผสานเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่างพื้น CloudTec ที่ปรับตัวได้เพื่อการลงพื้นอย่างนุ่มนวล และการส่งแรงที่ยอดเยี่ยม บริษัทสัญชาติสวิสนี้ มีรุ่นรองเท้าที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักวิ่งทุกประเภท ตั้งแต่ผู้ที่มองหารองเท้าซ้อม ที่มีการรองรับแรงกระแทกสำหรับการวิ่งระยะไกล ไปจนถึงผู้ที่ต้องการรองเท้าที่เพรียวบางสำหรับการแข่งขัน การหารุ่นที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ส่วนรองรับแรงกระแทก ความมั่นคง และการออกแบบเฉพาะ ที่ปรับให้เข้ากับพื้นผิว และรูปแบบการวิ่งที่หลากหลาย

เมื่อพิจารณารองเท้าวิ่งของ On สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ คุณสมบัติต่างๆ เช่น ระยะดรอปของส้นเท้าไปปลายเท้า น้ำหนักโดยรวม และการใช้งานของรองเท้า เช่น การวิ่งเทรล หรือการวิ่งบนถนน ยกตัวอย่างเช่นรุ่น Cloudstratus ที่มีชื่อเสียงด้านพื้น CloudTec สองชั้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับนักวิ่งที่ต้องการส่วนรองรับแรงกระแทกแบบจัดเต็ม โดยไม่ลดทอนความสามารถในการตอบสนอง ในอีกด้านหนึ่ง รุ่น Cloudventure ก็ถูกออกแบบมาสำหรับคนรักการวิ่งเทรลโดยเฉพาะ ด้วยการยึดเกาะที่ดีเลิศ และคุณสมบัติในการช่วยปกป้อง รองเท้าแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบตามวัตถุประสงค์ ด้วยเจตนาที่จะยกระดับประสบการณ์การวิ่ง พร้อมตอบโจทย์ความพึงพอใจ และเป้าหมายด้านสมรรถนะของนักวิ่ง

การเลือกดูรองเท้า On ที่มีมากมายหลากหลาย อาจดูเป็นเรื่องลำบาก แต่ถ้าเน้นที่ความชอบส่วนตัว นิสัยการวิ่ง และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับสภาพการวิ่งของคุณ กระบวนการคัดเลือกจะง่ายกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับซ้อมวิ่งประจำวัน รองเท้าเบาสำหรับการแข่งขัน หรือรองเท้าที่แข็งแรงทนทานสำหรับวิ่งเทรล On มีตัวเลือกที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของนักวิ่งทุกคน

สารบัญ

1. ทำความเข้าใจเทคโนโลยีรองเท้าวิ่ง On

• Cloudtec เทคโนโลยีการรองรับแรงกระแทก
• นวัตกรรม Speedboard
• Helion Superfoam
• พื้นรองเท้าชั้นนอก Missiongrip

2. การวิเคราะห์ความต้องการในการวิ่งของคุณ

• การวิ่งบนถนน กับ การวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ
• ระยะทางสั้น กับ ระยะทางยาว
• ความต้องการในการฝึกซ้อม กับ ในการแข่งขัน

3. เลือกขนาดให้เหมาะสม

• ขนาด และความพอดี
• การรองรับอุ้งเท้า
• ระบบเชือกรองเท้า

4. เปรียบเทียบรุ่นรองเท้า On Running

• Active เน้นความหลากหลายในการใช้งาน
• Support (Cushioned) เน้นการรองรับแรงกระแทก
• Performance เน้นความคล่องตัว น้ำหนักเบา

5. การพิจารณาคุณสมบัติพิเศษ

• ส่วนสะท้อนแสง
• วัสดุที่ยั่งยืน

6. การจัดสรรงบประมาณสำหรับรองเท้าวิ่ง On

• การวิเคราะห์ช่วงราคา
• ราคาเทียบกับประสิทธิภาพ
• ส่วนลด และข้อเสนอตามฤดูกาล

7. การอ่านรีวิวจากลูกค้า และผู้เชี่ยวชาญ

• รีวิวระดับมืออาชีพ
• คำติชมจากผู้ใช้
• การวิเคราะห์เปรียบเทียบ

8. การตัดสินใจครั้งสุดท้าย

• ประเภทของเท้า
• ลักษณะการวิ่ง
• ความชอบส่วนบุคคล
• การทดลองสวมใส่

On Running ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่โดดเด่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพ และความสบายของรองเท้า ทำให้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อต้องเข้าใจคุณสมบัติเหล่านี้ เมื่อเลือกรองเท้าที่เหมาะสม

ระบบ Cloudtec ที่เป็นเอกลักษณ์ของ On Running คือรากฐานของรองเท้าของพวกเขา ระบบนี้ ใช้ส่วนพื้นรองเท้ารูปแบบโพรงคล้ายเมฆ (clouds) ซึ่งจะยุบตัวเมื่อเท้าสัมผัสพื้น เพื่อการลงเท้าอย่างนุ่มนวล และจะล็อคตัวเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นฐานที่มั่นคง สำหรับการถีบตัวที่ทรงพลัง ระบบนี้ มอบความผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่างความนุ่ม และการรองรับ

Speedboard เป็นชั้นบางๆ และยืดหยุ่นที่ฝังอยู่ภายในพื้นรองเท้าชั้นกลาง ซึ่งปรับตัวรับกับการเคลื่อนไหวของเท้า นวัตกรรมนี้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกตอบสนองของรองเท้า และส่งเสริมการถ่ายเทพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในแต่ละก้าว ออกแบบมาเพื่อช่วยผลักดันนักวิ่งไปข้างหน้า และยังลดความเมื่อยล้าอีกด้วย

เทคโนโลยี Helion Superfoam ผสมผสานความเบา การรองรับแรงกระแทก และความทนทาน On Running ได้ออกแบบโฟมนี้ ให้ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ ทั้งในสภาพอากาศร้อน และเย็น วัสดุนี้ ให้การตอบสนองพลังงานที่ดีเยี่ยม และคงรูปร่างได้ตลอดเวลา

พื้นรองเท้าชั้นนอก Missiongrip มีรูปแบบการยึดเกาะที่เป็นเอกลักษณ์ และส่วนผสมของยาง ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยไม่ทำให้รองเท้าสูญเสียความเบา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ พื้นรองเท้าชนิดนี้ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคง และกันลื่นได้ดีบนทั้งพื้นผิวเปียก และแห้ง

การเลือกซื้อรองเท้า On Running ที่เหมาะสมนั้น เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของการวิ่งของคุณเอง เราจำเป็นต้องพิจารณาสภาพภูมิประเทศ ระยะทาง และจุดประสงค์ในการวิ่ง เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

สำหรับผู้ที่วิ่งบนพื้นผิวถนนเป็นหลัก รองเท้า On Running ที่ออกแบบสำหรับการวิ่งบนถนน จะเน้นระบบรองรับแรงกระแทก เพื่อซับแรงจากพื้นผิวคอนกรีต ช่วยให้การวิ่งในพื้นที่เมืองเป็นไปอย่างราบรื่น ในทางกลับกัน การวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ จำเป็นต้องใช้รองเท้าที่มีรูปแบบพื้นรองเท้าที่ดุดัน เพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น รวมถึงความทนทานที่ได้รับการปรับปรุงให้รับมือกับสภาพที่ขรุขระได้ดี

นักวิ่งที่เน้นการวิ่งระยะสั้น มักจะชอบรองเท้า On Running ที่มีน้ำหนักเบา และมีระบบรองรับแรงกระแทกที่ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม รองเท้าเหล่านี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อความเร็ว และความคล่องตัว ในขณะที่การวิ่งระยะไกล คุณควรหารองเท้าที่ให้ความสบาย และการรองรับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบาย เมื่อต้องวิ่งหลายไมล์

นักวิ่งที่ฝึกซ้อมสำหรับการแข่งขัน ควรเลือกรองเท้า On Running ที่รับรองความทนทาน และการรองรับเพื่อทนต่อการใช้งานซ้ำๆ ในทางกลับกัน รองเท้าสำหรับวันแข่งขัน มักจะให้ความสำคัญกับความเร็ว และประสิทธิภาพ โดยเน้นที่ความเบา และการคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม สามารถมีส่วนช่วยให้การแข่งขันของคุณออกมาดีอย่างมีนัยสำคัญ

การเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง On Running ที่พอดีเท้าอย่างเหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญต่อความสบาย และช่วยให้วิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนนี้จะพูดถึงเรื่องของขนาดรองเท้า การรองรับอุ้งเท้า และระบบผูกเชือกรองเท้า เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรองเท้าได้ดีขึ้น

สำคัญมากที่ต้องเลือกรองเท้า On Running ที่มีขนาดพอดีกับเท้าของคุณ On Running มีตารางเทียบขนาดให้เป็นแนวทาง ซึ่งแนะนำให้เพิ่มจากขนาดรองเท้าปกติของคุณขึ้นมาครึ่งไซส์ หรือเต็มไซส์ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับการขยายตัวของเท้าในระหว่างที่คุณวิ่ง พวกเขายังเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่ด้านหน้ารองเท้า ซึ่งควรมีช่องว่างประมาณความกว้างของนิ้วโป้ง เพื่อป้องกันการเกิดตุ่มพอง และเผื่อพื้นที่ให้เท้าได้ขยายตัว

รองเท้า On Running ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เท้าที่มีลักษณะอุ้งเท้าต่างกันออกไป การเลือกรองเท้าที่ช่วยรองรับอุ้งเท้าของคุณได้อย่างถูกต้อง ย่อมทำให้รู้สึกสบายขึ้นอย่างมาก เช่น คนที่มีเท้าแบนอาจต้องพิจารณารองเท้าที่มีการรองรับเป็นพิเศษ ในขณะที่คนมีอุ้งเท้าสูง อาจต้องเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองรับแรงกระแทกมากขึ้น เพื่อทดแทนการดูดซับแรงกระแทกที่เท้าจะทำได้น้อยกว่าปกติ

ระบบเชือกรองเท้าของ On Running สามารถมีผลต่อความพอดี และความรู้สึกโดยรวมของรองเท้า การผูกเชือกรองเท้าให้เหมาะสม ควรจะทำให้รู้สึกกระชับพอดี โดยไม่มีจุดไหนที่โดนบีบรัด หลายครั้งที่ทางบริษัทเลือกใช้ระบบเชือกรองเท้ารูปแบบพิเศษ ที่ช่วยให้ปรับความกระชับได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้รองเท้ากระชับพอดี และยังมั่นคงด้วย

การเลือกรองเท้า On Running ที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั้น จำเป็นต้องเข้าใจถึงคุณสมบัติที่โดดเด่น และจุดประสงค์ในการออกแบบเฉพาะของแต่ละรุ่นอย่างถี่ถ้วน ในส่วนถัดไปนี้ เราจะพาทุกท่านไปเปรียบเทียบกันอย่างชัดเจนระหว่างรุ่นยอดนิยมของ On Running เพื่อเน้นไปที่ด้านต่างๆ ทั้งการรองรับ แรงกระแทก และการใช้งานในแต่ละสภาพแวดล้อม

Cloud5

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้ารุ่นแรกๆ ตั้งแต่ยุคบุกเบิกแบรนด์ และเป็นรุ่นยอดนิยม เน้นความหลากหลายการใช้งาน On จัดให้เป็นรองเท้าที่เรียกว่า Active Lifestyle คือใส่วิ่ง เดิน ฟิตเนสได้ในคู่เดียว

CloudX3

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าที่ต่อยอดความสำเร็จมาจาก Cloud5 เป็นรองเท้า Active Lifestyle เช่นเดียวกัน Cloud5 เพียงแต่ปรับพื้นรองเท้าให้มีความมั่นคงขึ้น และน้ำหนักเบาลง

CloudFlow 4

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าเน้น Speed มีความคล่องตัวสูง เป็น On รุ่นแรกในสาย Performance เหมาะกับการวิ่ง 10km. – 42 km.

CloudSwift 3

• จุดประสงค์ : ถือเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ Helion นับเป็นรองเท้าสาย Active LifeStyle และเป็น Active LifeStyle ที่มีการรองรับแรงกระแทกดีที่สุด มีลักษณะพิเศษคือ upper คล้ายถุงเท้ามีความยืดหยุ่นดีและกระชับเท้า

CloudX3 Shift

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าวิ่งที่ต่อยอดจาก Cloud x3 โดยส่วนเดียวที่ปรับคือ Upper หรือหน้าผ้า โดยเพิ่มเติมลูกเล่นให้หน้าผ้าโปร่งสามารถมองทะลุถึงถุงเท้า เพราะความตั้งใจว่าเมื่อเปลี่ยนถุงเท้าเหมือนได้รองเท้าคู่ใหม่

CloudGo

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าประเภท daily trainer อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มวิ่งจริงจังมากขึ้น โดย Cloudgo เหมือนเป็นรองเท้ารุ่นผสมผสานระหว่าง On Cloudmonster และ On Cloud x3 โดย Support และน้ำหนักรองเท้าจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 รุ่นดังกล่าว

CloudSpark

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าเดิน วิ่ง ฟิตเนส ที่มีความโดดเด่นที่รูปทรง เข้ากระชับเท้า ใส่แล้วเท้าไม่ใหญ่ ไม่ดูเทอะทะต่างจากรองเท้ากีฬาทั่วๆ ไป นอกจากนั้น Cloudspack ยังน้ำหนักเบาอีกด้วย และด้วยเหตุนี้ถึงจะเป็นรุ่นใหม่แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

CloudFlyer 4

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าแนว Stability ออกแบบมาเพื่อคนเท้าล้ม เท้าแบน เน้นการรับแรงกระแทกสูง และมีความมั่นคงสูง

CloudStratus 2

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าแนว Stability ที่ใช้โฟม 2 ชั้นผสมกันระหว่าง Cloudtec และ Helion เน้นรองรับแรงกระแทกสูงเช่นเดียวกับ CloudFlyer แต่ด้วยทรงรองเท้าที่หนาและมีทรงโค้งทำให้สามารถทำความเร็วได้ดีกว่า

CloudMonster 2

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้า Daily Trainer ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก On รุ่นก่อนๆ โดยต่อยอดมาจาก Monster 1 ที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นรองเท้าพื้นนุ่ม เด้งตามสมัย โดย Cloudmonster2 ใช้โฟม Helion ชั้นเดียวหนาสุดในตอนนี้ของแบรนด์ โดยเฉพาะช่วงชั้นโฟมของรองเท้า ซึ่งด้วยความแตกต่างนี้ทำให้ On ตั้งชื่อรองเท้ารุ่นนี้ว่า “สัตว์ประหลาด” (Monster)

CloudRunner

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าวิ่งใส่ง่ายๆ เน้นความสบาย ไม่นุ่มและ ไม่หนาจดเกินไป มีการรับแรงกระแทกดี มีความมั่นคงสูง ถือเป็นรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับคนเท้าล้ม เท้าแบน ของ On

CloudSurfer 7

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้า Daily trainer แนวนุ่มเด้ง ที่น่าจะมีความนุ่มใกล้เคียงกับ Monster แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Cloudphase ซึ่งช่วยเพิ่มโมเม้นตั้ม การเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ดีขึ้น จึงมีความเด้งเหนือกว่า On cloudmonster แต่ในทางกลับกับความเด้งดังกล่าวทำให้ Surfer 7 มีความมั่นคงน้อยกว่า Monster นั่นเอง

CloudGo

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าประเภท daily trainer อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มวิ่งจริงจังมากขึ้น โดย Cloudgo เหมือนเป็นรองเท้ารุ่นผสมผสานระหว่าง On Cloudmonster และ On Cloud x3 โดย Support และน้ำหนักรองเท้าจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 รุ่นดังกล่าว

CloudBoom Echo 3

• จุดประสงค์ : รองเท้าที่รวมความเป็นที่สุดของ On ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ความทันสมัย วัสดุระดับพรีเมี่ยม รวมถึงราคา นอกจากนั้นยังเป็นรุ่นที่ผลิตมาจำนวนจำกัด จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แฟน On ตัวจริงหลายๆ คนมักจะมีใช้งาน รวมถึงเก็บสะสมไว้เป็น Collection ส่วนตัว

CloudFlow 4

• จุดประสงค์ : เป็นรองเท้าเน้น Speed มีความคล่องตัวสูง เป็น On รุ่นแรกในสาย Performance เหมาะกับการวิ่ง 10km. – 42 km.

เมื่อเลือกซื้อรองเท้า On Running การพิจารณาคุณสมบัติพิเศษ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็น คุณลักษณะพิเศษเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความเหมาะสมของรองเท้าสำหรับนักวิ่งทุกประเภท

ความปลอดภัยในสภาวะแสงน้อย ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และ On Running ได้คำนึงถึงสิ่งนี้ด้วยการผสมผสานส่วนสะท้อนแสง เข้ากับรองเท้าของพวกเขา โมเดลอย่าง Cloudflash หรือ Cloudflyer มักจะใช้รายละเอียดการสะท้อนแสง ที่วางตำแหน่งอย่างมีจุดยุทธศาสตร์ เพื่อเพิ่มการมองเห็นในระหว่างการวิ่งช่วงเย็น หรือเช้าตรู่

On Running มุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุที่ยั่งยืนในการผลิตรองเท้า วัสดุต่างๆ อย่างโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ ถือเป็นส่วนสำคัญของโมเดลต่างๆ อย่าง Cloud และ Cloudswift ส่งเสริมแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในการออกแบบ และผลิตรองเท้าวิ่ง

เมื่อเลือกรองเท้าวิ่ง On สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ ความคุ้มค่าระหว่างราคา และประสิทธิภาพ รวมถึงการมองหาข้อเสนอตามฤดูกาล เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุด

รองเท้าวิ่ง On มีราคาที่หลากหลาย โดยทั่วไปมีตั้งแต่ ประมาณ 5,800 – 7,000 บาท สำหรับรุ่นส่วนใหญ่ ซึ่งราคาจะสะท้อนถึงเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัท อย่างระบบรองรับแรงกระแทก CloudTec และแผ่น Speedboard

On Running ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และการออกแบบ ซึ่งนั่นแปลว่าจะมีราคาพรีเมี่ยม สำหรับรองเท้าที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ระบบรองรับแรงกระแทก CloudTec ของ On จะให้ความสบายระดับสูง และคืนพลังงานได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดในรุ่นที่สูงขึ้น ผู้ซื้อควรเปรียบเทียบคุณสมบัติต่างๆ เทียบกับความต้องการส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการรองรับแรงกระแทก หรือการรองรับอุ้งเท้า เพื่อดูว่าคุ้มค่าการลงทุน และตรงกับความต้องการด้านประสิทธิภาพของตน หรือไม่

Run2Paradise มักมีส่วนลดในช่วงเวลาต่างๆ ของปี เช่น ช่วงเทศกาลวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ โปรโมชั่นระหว่างปีหรือสิ้นปี ผู้ที่กำลังสนใจซื้อควรติดตามเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Run2Paradise หรือ ช่องทาง Facebook : Run2Paradise เพื่อรอช่วงลดราคา การเคลียร์สต๊อก และข้อเสนอแบบจำกัดเวลา ที่สามารถลดราคาได้ยาก

ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง On Running คุณสามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า จากการศึกษาความคิดเห็นจากทั้งรีวิวระดับมืออาชีพ และคำติชมจากผู้ใช้ทั่วไป การวิเคราะห์เปรียบเทียบความคิดเห็นเหล่านี้ สามารถช่วยคุณเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับความต้องการเฉพาะของคุณได้

นักรีวิวมืออาชีพ มักจะประเมินรองเท้าวิ่งโดยพิจารณาจากสมรรถนะ ความสบาย และเทคโนโลยีที่ใช้ พวกเขาทดสอบรองเท้าในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และให้ข้อมูลเชิงลึกในด้านต่างๆ เช่น การรองรับแรงกระแทก การยึดเกาะพื้น และความทนทาน ตัวอย่างเช่น รองเท้า On Running รุ่น Cloud Series อาจได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นรองเท้า CloudTec® ที่จดสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งให้การดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม

คำติชมจากผู้ใช้ สะท้อนถึงประสบการณ์ของนักวิ่งทั่วไป และสามารถเน้นย้ำถึงแนวโน้มของการใช้งานในระยะยาว ลูกค้าอาจแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความพอดีของขนาดรองเท้า หรือการตอบสนองของรุ่น Cloudflow ในระหว่างการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความเร็ว การประเมินในโลกแห่งความเป็นจริงนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ

การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ จะผสานความคิดเห็นจากรีวิวมืออาชีพ และคำติชมของผู้ใช้ทั่วไปเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถเข้าใจจุดแข็ง และจุดอ่อนของรองเท้าแต่ละรุ่นได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอาจชอบ On Cloudstratus เพราะมีพื้น CloudTec® สองชั้น แต่ผู้ใช้ทั่วไปอาจชอบ On Cloudswift สำหรับการวิ่งในเมือง เนื่องจากการออกแบบพื้นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเขตเมือง

ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง On Running นั้น จำเป็นมากที่จะต้องพิจารณาถึงลักษณะการวิ่ง และรูปเท้าของแต่ละบุคคล ความมั่นคง การรองรับแรงกระแทก และการยึดเกาะล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง

• เท้าปกติ (Neutral) : จะเหมาะที่สุดกับรองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกเท่าๆ กันทั่วทั้งรองเท้า
• เท้าบิดเข้าด้านในมากเกินไป (Overpronator) : ต้องการโครงสร้างรองรับที่ด้านในของรองเท้ามากกว่า
• เท้าบิดออกด้านนอกมากเกินไป (Supinator) : ควรมองหารองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกทั่วทั้งเท้าในระดับปกติ (Neutral) เพื่อป้องกันการบิดของเท้าออกด้านนอก

• วิ่งบนถนน : รองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทก และการยึดเกาะที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ
• วิ่งเทรล : ควรให้ความสำคัญกับการยึดเกาะ และความทนทานเป็นหลัก
• วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า : รองเท้าที่เบากว่าอาจเพียงพอ เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้ามีการรองรับแรงกระแทกในตัวอยู่แล้ว

• พิจารณาว่าชอบความรู้สึกที่นุ่มนวล หรือการตอบสนองที่ดีใต้ฝ่าเท้า
• ความสูงของส้นรองเท้า (Heel drop) อาจส่งผลต่อรูปแบบการวิ่ง; ส่วนใหญ่รองเท้ามี Heel drop อยู่ในช่วง 8 ถึง 13 มม.

ก่อนตัดสินใจซื้อ การลองสวมรองเท้า และสังเกตความพอดีถือเป็นสิ่งสำคัญ ความพอดีที่เหมาะสม ควรมีพื้นที่ว่างขนาดหนึ่งนิ้วหัวแม่มือบริเวณหัวรองเท้า และกระชับมั่นคงรอบส้นเท้าโดยไม่ลื่นหลุด

ตารางข้อควรพิจารณาอย่างคร่าวๆ:

ปัจจัย	ช่วงปกติ	ความสำคัญ
ความมั่นคง	ปานกลาง/เพียงพอ	ช่วยให้เท้าลงพื้นอย่างเหมาะสม
พื้นรองรับแรงกระแทก	ปรับให้เข้ากับพื้นผิวที่ใช้วิ่ง	ดูดซับแรงกระแทก
ดอกยาง	ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม	เพิ่มการยึดเกาะ และความปลอดภัย
ความพอดี	มีพื้นที่ความกว้างของหัวแม่โป้งในส่วนหน้าของรองเท้า	ให้ความสบาย และป้องกันการพอง
ความต่างระดับส้นเท้า	8-13 มม. (ช่วงทั่วไป)	มีผลต่อรูปแบบการวิ่งและความสบาย

นักวิ่งควรคำนึงถึงความต้องการทางกายภาพของตนเอง เช่น แนวโน้มการลงน้ำหนักเท้าขณะวิ่ง (pronation) และประวัติอาการบาดเจ็บที่ผ่านมาด้วย เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยเหล่านี้แล้ว นักวิ่งจึงจะสามารถมั่นใจในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งจาก On Running ได้