Newton แบรนด์ที่ปฏิเสธไม่ได้ถึงความ “ดิบ เด้ง” ในระดับตำนาน โดยรองเท้าทุกรุ่นของ Newton จะมีเอกลักษณ์พิเศษคือ “ปุ่มนูนใต้บริเวณหน้าเท้า” ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเรียกว่า P.O.P นั่นเอง ปุ่ม P.O.P ตรงนี้เป็นต้นเหตุนของ “ความพยศ” ของรองเท้า โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความเร็ว
โดยรองเท้าจะ เด้ง ส่งสำหรับคนที่ลงหน้าเท้า และกลางเท้า ส่วนสำหรับนักวิ่งที่ลงส้น และมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยากปรับท่าวิ่ง P.O.P จะช่วยทำให้ปรับฟอร์มการวิ่ง ให้นักวิ่งมาลงกลางเท้า หน้าเท้ามากขึ้น นั่นเอง ทำให้ Newton เป็นแบรนด์ที่มีจุดขายชัดเจน และต่างจากแบรนด์อื่นๆ เรียกว่าถ้า “ปราบความพยศได้” ก็เป็นแฟนคลับแบรนด์ไปเลย ส่วนนักวิ่งที่ ”ปราบความพยศนี้ไม่ได้” ก็โบกมือลาแบรนด์นี้ไปเลย
สรุปรองเท้า Newton
- ในรุ่นสูงสุดมีทั้งหมด 4 รุ่น แบ่งเป็น สาย Daily Trainer 2 รุ่น และ สาย Performance 2 รุ่น
- ในแต่ละสายจะมีการแยกประเภทรองเท้าเพื่อให้เหมาะกับรูปเท้า โดย “เท้าเว้า” จะเป็นรุ่น Gravity10 หรือ Distance10 “เท้าแบน” จะเป็นรุ่น Motion10 หรือ Distance S10 สุดท้าย “เท้าปกติ” สามารถเลือกใส่ได้ทุกรุ่น
- รองเท้า Daily Trainer และ Performance ของ Newton ใช้หน้าผ้า Upper ต่างกันโดย สาย Daily Trainer จะเน้นความนุ่ม ส่วน Performance จะเน้นเบา โปร่งเพื่อการระบายอากาศ
- รองเท้าสำหรับคนเท้าแบนอย่าง Motion10 และ Distance S10 จะมีเทคโนโลยีโฟม EMB ด้านในเพื่อช่วยในการรับแรงกระแทกการลงเท้าด้านใน
- รองเท้าสาย Performance อย่าง Distance 10 และ Distance S 10 จะมีความแข็ง และดีด เด้ง ส่งได้มากกว่าสาย Daily Trainer และจะเพิ่มเทคโนโลยี Ice Rubber lugs เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
- รองเท้าสาย Daily Trainer อย่าง Gravity 10 และ Motion 10 ถึงแม้จะเน้นความ ดิบ เด้ง แต่ยังคงเน้นการรับแรงกระแทกเลยมีความนุ่มนวลมากกว่าสาย Performance
เหมาะกับคนที่กำลังมองหาสาย Performance สำหรับวิ่ง interval , tempo และ Race Day โดยรองเท้าเหมาะกับรูปเท้าแบน หรือเท้าปกติ
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์