New Balance SC Pacer V2
“Super Racing Flat จาก New Balance”
ก่อนที่เทคโนโลยีรองเท้า Super shoes จะโด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รองเท้า Racing Flat คือหนึ่งในประเภทขรองเท้าที่ในอดีตนักวิ่งต้องรู้จักและถ้าเทียบความนิยมกับ Super Shoes ในปัจจุบัน Racing Flat ก็ได้รับความนิยมไม่ต่างกัน โดย Racing Flat มีคุณสมบัติเบา มีความคล่องตัวสูง ตอบสนองดี ระบายอากาศดี และที่สำคัญให้ความรู้สึกถึงพื้นเวลาลงเท้า ซึ่งในปัจจุบันรองเท้าประเภทนี้เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ส่วน Super Shoes โฟมจะตอบสนองแรงได้ดีกว่า มีการรองรับแรงกระแทกดีกว่า มีความนุ่มนวลถึงแม้ว่าจะวิ่งเร็วมากกว่า และในที่สุดหลายๆแบรนด์ ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับช่องว่างระหว่าง Super Shoes (รองเท้าวิ่งยุคใหม่) กับ Racing Flat (รองเท้าวิ่งยุคดั้งเดิม)
รวมถึง New Balance ซึ่งการเติมเต็มช่องว่าตรงนี้คือ “การหาจุดลงตัวระหว่าง Super Shoes และ Racing Flat ดังนั้นการใช้คำว่า Super Racing Flat เป็นคำนิยามที่ลงตัวที่สุด” ซึ่ง SC PACER V2 เป็นตัวแทน Super Racing Flat จาก New Balance โดยตัวรองเท้าออกแบบมาเพื่อใช้ในการวิ่ง 5 km – 21 km. เป็นหลัก หากแต่คนที่อยากหารองเท้าวิ่ง 42 km. ที่ตอบสนองเท้าได้ดี น้ำหนักเบา ให้ความรู้สึกถึงพื้นก็สามารถใช้งานได้ โดย SC Pacer V2 มีความเป็น Super Shoes ด้วยโฟมที่ล้ำสมัย รวมถึงการมีแผ่นคาร์บอน ผสานกับมี DNA ของความเป็น Racing Flat ที่พื้นไม่หนามากนัก เน้นน้ำหนักเบา นั่นเอง
Weigh: 205 กรัม (US M9)
Stack: 35-27 mm.
Drop: 8 mm.
Upper:
- หน้าผ้าชั้นเดียว เน้นน้ำหนักเบา และการระบายอากาศแบบสูงสุด
- ช่วง Sockliner เป็นแบบบาง
- ลิ้นรองเท้าเป็นแบบบางเน้นความกระชับ
Midsole:
- โฟม PEBA 100% ไม่มีส่วนผสมใดๆ New Balance จึงเคลมว่าโฟมในรุ่นนี้เป็นโฟม ที่ตอบสนองต่อแรงได้ดีที่สุดเหนือ SC EliteV4 (ด้วยความที่ Elite V4 หนากว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานุ่มยวบจนเกินไปจึงต้องผสมโฟม FuelCell เพื่อเพิ่มการตอบสนองต่อแรงและเพิ่มความทนทาน)
- แผ่นคาร์บอนแบบเต็มแผ่น ที่ใช้พร้อมกับทรงรองเท้า Energy ARC ที่จะช่วยเรื่องการสะท้อนแรงเพื่อการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
Outsole:
- การวางยางในส่วนที่สำคัญเพื่อจุดประสงค์ให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาที่สุด
Conclusion:
New Balance SC Pacer V2 เหมาะกับคนที่หารองเท้าซิ่งๆ วิ่ง มันส์ๆ ไวๆ ซักคู่ เหมาะกับระยะ 5 km.-21 km. รวมถึงการลงคอร์ส Interval Fastlek หรือ session ที่ต้องใช้ความเร็วและความคล่องตัว หรือคนที่คิดถึงรองเท้า Feeling เดิมแต่แผงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่โดยรวมแล้วตัวรองเท้าน้ำหนักเบา ระบายอากาศดี มีความคล่องตัวสูง ไม่หนาจนเกินไปนั่นเอง